Jet Lag คืออาการที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีการปรับตัวไม่ทันกับการเปลี่ยนเขตเวลา (Time Zone) เมื่อเดินทางไปยังเขตเวลาที่ต่างกัน สาเหตุคือการเปลี่ยนโซนเวลาที่รวดเร็ว ซึ่งอาจทำให้นาฬิกาของร่างกายยังงงๆอยู่ และยังไม่ชินกับช่วงเวลาใหม่ แต่เมื่อผ่านไปในช่วง 1-2 วัน อาการก็จะดีขึ้นตามลำดับครับ
ซึ่งโดยปกติแล้วร่างกายจะมีนาฬิกาภายในร่างกายเป็นของตัวเอง ซึ่งนาฬิกาภายในร่างกายจะส่งสัญญาณไปยังร่างกายของว่าเมื่อใดที่จะตื่น และเมื่อใดที่จะนอนหลับ
อาการที่พบของ Jet Lag ได้แก่
- ปวดหัว
- เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย ง่วงนอน
- นอนไม่หลับ
- มีปัญหาเรื่องระบบทางเดิน เช่น ท้องผูก อาหารไม่ย่อย ความอยากอาหารน้อยลง
- อารมณ์แปรปรวน เช่น หงุดหงิด
- ไม่ค่อยมีสมาธิ
วิธีที่ช่วยลดอาการ Jet Lag
1. ลองปรับตัวก่อนเดินทางดู เช่น เมื่อเดินทางไปยังเขตเวลาที่ต่างกัน ควรเริ่มปรับตัวเวลาให้ใกล้เคียงกับเวลาที่จะไป
2.นอนหลับให้สนิทก่อนการเดินทาง พยายามเริ่มต้นด้วยการนอนหลับให้เพียงพออย่างต่อเนื่องในตอนกลางคืนก่อนที่จะไปเที่ยว
3.นําอุปกรณ์เสริมที่เป็นประโยชน์มาด้วย เช่น นำหน้ากากนอนหลับ ที่อุดหู และเสื้อผ้าที่ใส่สบายสําหรับการนอนหลับบนเครื่องบิน
5.อย่าจัดตารางวันแรกมากเกินไป หนึ่งในอาการเจ็ตแล็ก คือการจัดตารางการท่องเที่ยวปลายทางวันแรกมากเกินไป ควรจัดสรรเวลาให้เพียงพอสําหรับการนอนหลับ
6. รับแสงแดด การได้รับแสงแดดจะชวยให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้น เพราะแสงแดดสามารถช่วยลดฮอร์โมนเมลาโทนินที่ทำให้ง่วงนอนได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรรับแสงแดดในช่วงเวลาเหมาะสม เช่น ในช่วงเช้าหรือเย็น ที่แสงแดดไม่จ้าจจนเกินไป
7. ดื่มให้น้ำมากขึ้น ในระหว่างการเดินทางไกลอาจเกิดอาการขาดน้ำ ทำให้ร่างกายเกิดความเหนื่อยล้า ซึ่งน้ำจะเป็นตัวช่วยให้ลดอาการเหนื่อยล้าจาการเดินทาง
8.อย่าหักโหมคาเฟอีน คาเฟอีนสามารถเพิ่มความตื่นตัวได้ระยะสั้น คาเฟอีนมากเกินไปอาจทําให้กระวนกระวายใจ ตื่นเต้น ทําให้นอนหลับยาก
9.การออกกําลังกาย ควรออกกําลังกายเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง
10.ปรึกษาแพทย์ดูครับ สำหรับใครที่มีอาการหนัก